Wiki/th/handbooks/child-protection-handbook.html

303 lines
79 KiB
HTML
Raw Permalink Blame History

This file contains ambiguous Unicode characters

This file contains Unicode characters that might be confused with other characters. If you think that this is intentional, you can safely ignore this warning. Use the Escape button to reveal them.

<!--
title: คู่มือ การปกป้องคุ้มครองนักเรียนของคริกส์
description:
published: true
date: 2023-09-29T05:53:38.650Z
tags:
editor: ckeditor
dateCreated: 2023-09-22T12:47:12.513Z
-->
<h1>นโยบายเกี่ยวกับ การล่วงละเมิดและการข่มเหงรังแก (Harassment and Bullying Policy)</h1>
<h2><strong>นิยามทั่วไป (General Statement)</strong></h2>
<p>โรงเรียนคริสเตียนนานาชาติเชียงราย (คริกส์) มุ่งมั่นที่จะรักษาบรรยากาศในการทำงานและการเรียนรู้ให้ปราศจากการล่วงละเมิดทางเพศ ความรุนแรงทางเพศ และการข่มเหงรังแก (รวมถึงการล่วงละเมิดประเภทต่างๆ ) หากนักเรียน ครู ผู้บริหาร หรือบุคลากรใดๆ ในโรงเรียน ได้ทำการล่วงละเมิด ข่มขู่ว่าจะล่วงละเมิด หรือพยายามที่จะทำการล่วงละเมิดนักเรียน ครู ผู้บริหาร หรือบุคลากรใดในโรงเรียน ไม่ว่าจะโดยผ่านพฤติกรรมหรือการสื่อสารประเภทใดๆ ที่เป็นการล่วงละเมิดตามที่ได้อธิบายไว้ในนโยบายนี้ จะถือว่าเป็นการฝ่าฝืนนโยบายนี้ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายนี้ได้ในคู่มือสำหรับบุคลากร/ครู)</p>
<p>หากโรงเรียนได้รับการร้องเรียนใดๆ ที่เป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ ด้วยวาจาหรือเป็นลายลักษณ์อักษร เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ การใช้ความรุนแรงทางเพศ หรือการข่มขู่รังแก โรงเรียนจะดำเนินการตรวจสอบ และจะอบรมสั่งสอนหรือดำเนินการตามความเหมาะสมกับนักเรียน ครู ผู้บริหาร หรือบุคลากรใดๆ ในโรงเรียนที่ได้ละเมิดนโยบายนี้</p>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>การล่วงละเมิด (Harassment)</strong></h2>
<p>การล่วงละเมิดประกอบด้วย การใช้วาจา การเขียน ภาพวาดกราฟิก หรือพฤติกรรมทางกายภาพที่เกี่ยวโยงถึงเชื้อชาติ สีผิว ศาสนา เพศ สัญชาติ/ถิ่นกำเนิด ลักษณะทางกายภาพหรือความพิการ สถานะของผู้ปกครองหรือสถานภาพการสมรสของบุคคลหนึ่ง</p>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>การข่มเหงรังแก (Bullying)</strong></h2>
<p>การที่นักเรียนคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ล่วงละเมิดหรือรังแกนักเรียนอีกคนหรืออีกกลุ่มหนึ่งซ้ำแล้วซ้ำอีก เนื่องจากมีความไม่เท่าเทียมกันในด้านกำลังและอำนาจ เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำไม่สามารถปกป้องตนเองหรือช่วยเหลือตนเองได้</p>
<p>การข่มเหงรังแกอาจรวมไปถึง (ไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่กระทำ)</p>
<ol>
<li>การสัมผัสทางกายที่ไม่พึงประสงค์ (เช่น การผลัก การตี การตั้งใจทำให้อีกฝ่ายสะดุด เป็นต้น)</li>
<li>การแตะต้องหรือการหยิบเอาทรัพย์สินของผู้ถูกกระทำไปโดยไม่ได้รับอนุญาต</li>
<li>การเขียนหรือใช้คำพูด ไม่ว่าในภาษาใดก็ตาม ที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บหรืออับอายขายหน้า</li>
<li>การพยายามที่จะทำลายความสัมพันธ์ต่างๆ ของผู้ถูกกระทำ</li>
<li>การพยายามทำให้ผู้ถูกกระทำรู้สึกโดดเดี่ยว โดยการโน้มน้าวคนอื่นๆ ที่จะไม่ยอมรับบุคคลนั้น</li>
<li>กิริยาท่าทางหรือการแสดงออกที่เป็นการดูถูก หยาบคาย ไม่สุภาพ หรืออะไรที่เป็นการสร้างความเสื่อมเสีย</li>
<li>ปฎิกิริยาตอบโต้ของผู้กระทำที่รังแกผู้อื่น เพราะตนเองนั้นเคยถูกคนอื่นรังแก</li>
<li>การมีพฤติกรรมหรือการใช้วิธีการกลั่นแกล้งผ่านโลกออนไลน์ (ไซเบอร์บูลลิ่ง)</li>
</ol>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>การแจ้งเรื่อง การคุกคามและการข่มเหงรังแก (Reporting Harassment &amp; Bullying)</strong></h2>
<p>บุคคลใดก็ตามที่เชื่อว่าตนได้ตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดโดยนักเรียน ครู ผู้บริหาร หรือบุคลากรของโรงเรียน หรือบุคคลใดก็ตามที่ทราบว่าหรือเชื่อว่ามีพฤติกรรมที่เข้าข่ายการล่วงละเมิดต่อนักเรียน ครู ผู้บริหาร หรือบุคลากรของโรงเรียน จะต้องแจ้งการกระทำนั้นให้ครูใหญ่หรือผู้อำนวยการทราบทันที</p>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>ขั้นตอนการตรวจสอบ (Investigation Process)</strong></h2>
<ol>
<li>พยานหรือผู้ถูกกระทำร้องเรียนโดยวาจาหรือโดยการเขียน</li>
<li>ผู้อำนวยการได้รับเรื่องร้องเรียน (ครูใหญ่จะรับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการแทน หากผู้อำนวยการเป็นฝ่ายถูกกล่าวหา)</li>
<li>ผู้อำนวยการกำหนดว่าใครจะทำการสืบสวน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของเรื่องที่ร้องเรียน แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเลือกคณะกรรมการดำเนินงานที่ประกอบไปด้วยประธาน คณะกรรมการชายและหญิง ผู้อำนวยการจะพิจารณาว่าสถานการณ์รุนแรงพอที่จะปฏิบัติตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในนโยบายปกป้องและให้ความคุ้มครองกับนักเรียนหรือไม่</li>
<li>ผู้สอบสวนจะดำเนินการสืบสวนสอบสวน และส่งรายงานผลของการสืบค้นเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังผู้อำนวยการ ผลของการสืบค้นจะมีความคิดเห็นของผู้สอบสวนรวมอยู่ด้วยเกี่ยวกับความสมเหตุสมผลของเรื่องร้องเรียนนั้น และจะกำหนดเจตนาของผู้ร้องเรียนหากมีการพบว่าข้อกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง</li>
<li>หากพบว่าข้อกล่าวหามีความเป็นจริงในบางส่วนหรือทั้งหมด ผู้อำนวยการจะหารือกับคณะกรรมการดำเนินงานของคริกส์ ผู้ประสานงานของรัฐบาลไทย และทนายความของโรงเรียน เพื่อพิจารณาและดำเนินการตามความเหมาะสม คำตัดสินและบทลงโทษจะถูกบันทึกไว้ในประวัติของพนักงานหรือนักเรียนคนนั้นเป็นการถาวร</li>
<li>ในกรณีที่พบว่าข้อกล่าวหานั้นไม่มีมูลความจริง ผู้อำนวยการจะหารือกับคณะกรรมการดำเนินงาน ของคริกส์ ผู้ประสานงานของรัฐบาลไทย และทนายความของโรงเรียน เพื่อพิจารณาว่าเรื่องร้องเรียนนั้นเหมาะสมหรือไม่</li>
</ol>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>การลงโทษ (Consequences)</strong></h2>
<p>การลงโทษทางวินัยกับนักเรียนนั้นมีตั้งแต่ เขียนจดหมายขอโทษผู้ถูกกระทำ ถูกสั่งให้เข้ารับการปรึกษา ระงับการเรียน หรือดำเนินคดีทางอาญา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการกระทำของนักเรียน</p>
<p>การลงโทษทางวินัยกับอาสาสมัครหรือเจ้าหน้าที่มีตั้งแต่ เขียนจดหมายขอโทษผู้ถูกกระทำ ถูกสั่งให้เข้ารับการปรึกษา ไล่ออกและ/หรือดำเนินคดีทางอาญา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการกระทำของอาสาสมัครหรือเจ้าหน้าที่</p>
<p><i><strong>การกล่าวหาโดยเจตนาร้าย (Malicious reporting)</strong></i></p>
<p>หากผู้สอบสวนพบว่าข้อกล่าวหานั้นเกิดจากความไม่ยั้งคิดในความเป็นจริง มีความเท็จ หรือผู้กล่าวหานั้นได้ยื่นเรื่องร้องทุกข์ด้วยเจตนาร้าย ผู้กล่าวหานั้นจะได้รับโทษในลักษณะแบบเดียวกับผู้กระทำผิดดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น</p>
<h1>นโยบายเกี่ยวกับ การทารุณกรรมนักเรียน (Child Abuse Policy)</h1>
<h2><strong>คำนำ (Introduction)</strong></h2>
<p>คริกส์มีนโยบายที่จะรักษาบรรยากาศในโรงเรียนให้ปราศจากผลกระทบของการทารุณกรรมหรือการละเลยนักเรียน ห้ามพนักงาน อาสาสมัคร ลูกจ้าง หรือนักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมใดๆ ที่ถือเป็นการทารุณและ/หรือละเลยนักเรียน ผู้รายงานโดยตรงทุกคน (อาสาสมัครที่ได้ลงทะเบียนกับทางโรงเรียน คณะครู และเจ้าหน้าที่ของคริกส์ที่ได้รับค่าตอบแทน) จะต้องรายงานให้กับผู้อำนวยการทราบหากสงสัยและเชื่อว่ามีการทารุณกรรมหรือการละเลยนักเรียนเกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน</p>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>คำจำกัดความ (Definitions)</strong></h2>
<p>การทารุณกรรมและการละเลยนักเรียนคือ การที่ผู้ใหญ่หรือนักเรียนประพฤติตนไม่เหมาะสม ผิดศีลธรรม และ/หรือผิดจรรยาบรรณ ต่อนักเรียนหรือผู้เยาว์อีกคนหนึ่งที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เนื่องจากคนมีอำนาจไม่เท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะในด้านอายุ กายภาพ สติปัญญา จิตใจ หรือโอกาสตามสถานการณ์หรือศักยภาพ การกระทำเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ถึงแม้ว่าจะได้รับการยินยอมหรือไม่ยินยอมจากผู้ถูกกระทำ และสามารถเกิดขึ้นได้ขณะพบปะแบบส่วนตัวหรือในที่มีคนหมู่มาก อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกการประพฤติที่ไม่เหมาะสมจะถือว่าเป็นการทารุณกรรมหรือการละเลย พฤติกรรมที่จัดอยู่ในหมวดการทารุณกรรมและการละเลยมีดังต่อไปนี้</p>
<ol>
<li><strong>การทารุณกรรมทางกาย </strong>คือ<strong> </strong>การที่ผู้หนึ่งผู้ใดทำให้นักเรียนได้รับบาดเจ็บทางร่างกายด้วยวิธีอื่นนอกเหนือจากอุบัติเหตุ เช่น ความโหดร้ายโดยเจตนา การลงโทษที่ไม่ยุติธรรม หรือโดยการตั้งใจก่อให้เกิดความเจ็บปวดทางร่างกาย แต่วิธีการสร้างระเบียบวินัยแบบปกติของผู้ปกครองนั้นไม่ถือว่าป็นการทารุณกรรมนักเรียน เช่น การตีที่บั้นท้ายหรือขาที่ไม่ก่อให้เกิดรอยช้ำที่อยู่คงนานเกิน 24 ชั่วโมง</li>
<li><strong>การทารุณกรรมทางเพศ</strong> การกระทำหรือการอนุญาตให้กระทำความผิดทางเพศต่อนักเรียน ตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายอาญา หรือการจงใจสัมผัสอวัยวะเพศ อัณฑะ หรือหน้าอกของนักเรียน เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากสุขอนามัยหรือการดูแลนักเรียน</li>
<li><strong>การทำร้ายทางจิตใจหรือโดยวาจา </strong>คำพูดหรือการเขียน การกระทำผ่านดิจิทัล ภาพกราฟิก กิจกรรมออนไลน์ และพฤติกรรมอื่นๆ ที่ไม่ใช่ทางกายภาพ ที่มีวัตถุประสงค์ไม่ดี ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกด้อยค่า การเป่าหู หรือควบคุมผู้ถูกกระทำ ซึ่งรวมไปถึงการขู่ การดูหมิ่น การติดตามอย่างต่อเนื่อง การติดต่อที่มากเกินไป การทำให้เกิดความอับอายขายหน้า การทำให้รู้สึกกลัว ทำให้โดดเดี่ยว หรือการสะกดรอยตาม</li>
<li><strong>การล่วงละเมิด </strong>(ดูคำจำกัดความได้ในนโยบายนี้)</li>
<li><strong>การละเลย </strong>การที่นักเรียนไม่ได้รับการเอาใจใส่หรือขาดการดูแลจากผู้ปกครอง ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพหรือสวัสดิการของนักเรียน</li>
</ol>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>การป้องกันนักเรียนจากการถูกทารุณกรรมหรือการถูกละเลย (Prevention of Child Abuse / Neglect)</strong></h2>
<ol>
<li>การคัดเลือกอาสาสมัคร พนักงาน และบุคลากรที่ได้ลงทะเบียนกับทางโรงเรียน<ol>
<li>กระบวนการคัดเลือกจะรวมถึงภูมิหลังของปัจจุบัน (ภายใน 12 เดือน) และการตรวจสอบการอ้างอิง คริกส์จะไม่ยอมรับครู อาสาสมัคร หรือเจ้าหน้าที่ที่มีประวัติการทารุณกรรมนักเรียนหรือการล่วงละเมิด</li>
<li>ผู้สมัครงานและอาสาสมัครจะตกลงเห็นด้วยกับข้อกำหนดของนโยบายนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปฐมนิเทศประจำปี</li>
<li>คริกส์จะส่งเสริมบรรยากาศที่ยอมรับในความเป็นไปได้ (นั่นคือ มีความเชื่อในความเป็นไปได้ที่การทารุณกรรมนักเรียนอาจจะเกิดขึ้น) และเสรีภาพในการรายงานว่ามีการละเมิดเกิดขึ้น</li>
</ol>
</li>
<li>พนักงานและบุคลากรทุกคน (ผู้ที่ได้รับค่าตอบแทนและอาสาสมัครที่ได้ลงทะเบียนกับทางโรงเรียน) จะต้อง:<ol>
<li>เข้าร่วมการฝึกอบรมที่เหมาะสมเป็นประจำทุกปี ซึ่งจะรวมถึง:<ol>
<li>การอ่านและยอมรับนโยบาย การปกป้องคุ้มครองนักเรียน</li>
<li>การระบุและป้องกันการทารุณกรรมและการละเลยนักเรียน</li>
<li>วิธีการที่เหมาะสมในการจัดการปัญหา และความต้องการของนักเรียน</li>
<li>การรายงานตามความรับผิดชอบ และวิธีดำเนินการ</li>
<li>การประเมินผู้เข้ารับการฝึกอบรม และสิ่งที่เรียนรู้ผ่านการฝึกอบรม</li>
</ol>
</li>
<li>ปฏิบัติและดำเนินการตามนโยบาย เพื่อส่งเสริมบรรยากาศของการเรียนรู้ที่ปลอดภัยและดี</li>
<li>มีความเข้าใจว่าพวกเขามีหน้าที่ต้องรายงานหากมีการทารุณกรรมนักเรียนเกิดขึ้น</li>
</ol>
</li>
<li>พนักงานระยะสั้นทุกคน (อาสาสมัครที่มาช่วยน้อยกว่าหนึ่งปี) จะตกลงยอมรับข้อกำหนดของนโยบายนี้</li>
<li>ผู้ปกครองทุกคน<ol>
<li>มีคู่มือเกี่ยวกับนโยบายทั้งหมด</li>
<li>จำเป็นต้อง<ol>
<li>อ่านและตกลงเห็นด้วยกับนโยบาย การปกป้องคุ้มครองนักเรียน</li>
<li>ส่งการตรวจสอบประวัติ หากพวกเขาวางแผนที่จะลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครหรือเป็นอาสาสมัครช่วยในช่วงที่โรงเรียนมีกิจกรรม (เช่น ช่วยขับรถให้นักเรียนเมื่อมีการไปทัศนศึกษา)</li>
</ol>
</li>
<li>ควรเข้าร่วมการฝึกอบรมที่เหมาะสมเป็นประจำทุกปี ซึ่งจะรวมถึง<ol>
<li>การระบุและป้องกันการทารุณกรรมและการละเลยนักเรียน</li>
<li>การรายงานตามความรับผิดชอบ และวิธีดำเนินการ</li>
</ol>
</li>
</ol>
</li>
<li>นักเรียนทุกคนจะเข้ารับการฝึกอบรมที่เหมาะสมเป็นประจำทุกปี ซึ่งจะรวมถึง<ol>
<li>การระบุความเสี่ยงและการดูแลป้องกัน</li>
<li>การรายงานแนวปฏิบัติ</li>
</ol>
</li>
<li>ฝ่ายบริหารจะแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองนักเรียน เพื่อดูแลการฝึกอบรม ให้คำปรึกษา และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตามนโยบาย และดูแลการทบทวนนโยบาย</li>
</ol>
<h1>การควบคุมความประพฤติสำหรับนักเรียน (Standards of Conduct in Regards to Children)</h1>
<p>บุคลากร ผู้เยี่ยมเยือน และนักเรียนของคริกส์ ต้องมีความแน่ใจว่าคำพูดและการกระทำของพวกเขาจะเสริมสร้าง self-esteem (การเห็นคุณค่าในตัวเอง) ให้กับนักเรียนและคนอื่นๆ พวกเขาจะต้องไม่ใช้ภาษาที่เสื่อมเสีย หรือกระทำการใดๆ ที่ทำให้นักเรียนรู้สึกอับอายขายหน้า ได้รับการดูถูก หรือเหยียดหยาม หรือกระทำการล่วงละเมิดทางอารมณ์ในรูปแบบใดๆ นอกจากนี้ คริกส์จะไม่ยอมให้มีการข่มเหงรังแกเกิดขึ้น</p>
<p>บุคลากรของคริกส์ (ไม่รวมผู้เยี่ยมเยือนและผู้รับจ้าง/คนงาน) จะสั่งสอนโดยใช้วินัยในลักษณะที่สอดคล้องกับนโยบายของคริกส์และกฎหมายไทย คริกส์จะไม่ยอมให้มีการใช้ความรุนแรงกับนักเรียน</p>
<p>บุคลากร ผู้เยี่ยมเยือน และนักเรียนของคริกส์ จะต้องไม่ใช้พฤติกรรมทางกายที่ไม่เหมาะสมกับนักเรียน (หรือกับคนอื่นๆ ) ซึ่งอาจเป็นการล่วงละเมิดหรือไม่เป็นที่พึงประสงค์ พวกเขาจะต้องไม่เปิดเผยของลับ แสดงภาพลามก อนาจาร พยายามลวนลาม หรือใช้อำนาจในการบังคับให้มีส่วนร่วมในการกระทำทางเพศ</p>
<h1>การค้นพบและการรายงาน (Discovery and Reporting)</h1>
<h2><strong>คำสั่งการ (Mandated reports)</strong></h2>
<ol>
<li>ที่คริกส์ อาสาสมัคร ครู และพนักงานที่ได้รับค่าตอบแทน ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รายงานโดยตรง และต้องรายงายให้ผู้อำนวยการทราบหากสงสัยว่ามีการทารุณกรรมหรือการละเลยนักเรียนเกิดขึ้น ผู้รายงานโดยตรงจะต้อง<ol>
<li>จัดทำรายงานส่งไปให้ผู้อำนวยการหรือครูใหญ่เมื่อรู้หรือสังเกตเห็นว่า มีนักเรียนที่ตนรู้จักหรือ มี “การตั้งข้อสงสัยอย่างสมเหตุสมผล” ว่าอาจมีนักเรียนตกเป็นเหยื่อของการทารุณกรรมหรือการถูกละเลย<ul>
<li>* “การตั้งข้อสงสัยที่สมเหตุสมผล” คือ การที่คนใดคนหนึ่งจะสงสัยโดยปราศจากอคติว่า มีการทารุณกรรมหรือการละเลยนักเรียนเกิดขึ้น เพราะแม้แต่คนที่ไม่มีอคติที่อยู่ในตำแหน่งเดียวกันก็จะสงสัยเช่นกันว่าอาจมีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากการเรียนรู้ที่เคยได้รับมาและจากประสบการณ์</li>
</ul>
</li>
<li>จัดทำและส่งรายงานอย่างเป็นทางการให้กับผู้อำนวยการหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองนักเรียนภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดที่ต้องสงสัย แบบฟอร์มรายงานสามารถขอได้จากผู้อำนวยการหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองนักเรียน (แบบฟอร์มรายงานสงสัยว่ามีการล่วงละเมิดนักเรียน ดูที่ภาคผนวก)</li>
</ol>
</li>
<li>การรายงานภายใต้หัวข้อนี้เป็นหน้าที่ของรายบุคคล เหตุฉะนั้นหัวหน้า ผู้บริหาร และสมาชิกของคณะกรรมการดำเนินงานไม่มีสิทธิ์ขัดขวางหรือยับยั้งหน้าที่การรายงาน และบุคคลใดก็ตามที่รายงานเนื่องจากมีความสงสัยที่สมเหตุสมผล จะไม่ถูกลงโทษโดยคริกส์</li>
<li>การรายงานข้อมูลเกี่ยวกับกรณีของการทารุณกรรมหรือการละเลยนักเรียนให้กับพนักงาน บุคลากร เพื่อนร่วมงาน หรือบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้อำนวยการหรือครูใหญ่ จะไม่ถือว่าเป็นการทดแทนการรายงานตามคำสั่งการ</li>
<li>หากผู้รายงานโดยตรงไม่รายงานเรื่องที่ต้องสงสัยที่มีความสมเหตุสมผลเกี่ยวกับการทารุณกรรมหรือการละเลยนักเรียน ผู้ที่รายงานจะได้รับการอบรมโดยคริกส์ และอาจรวมไปถึงการยกเลิกสัญญาในการทำงาน</li>
</ol>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>การรายงานของนักเรียน (Student Reports)</strong></h2>
<ol>
<li>นักเรียนคริกส์คนใดที่ถูกทารุณกรรมโดย พนักงาน บุคลากร อาสาสมัคร หรือนักเรียนของคริกส์ หรือรู้ว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น จะต้องรายงานให้พนักงาน บุคลากร หรืออาสาสมัครของคริกส์ทราบ เมื่อได้รับข้อมูลแล้ว ผู้รายงานโดยตรงจะจัดทำรายงานโดยใช้ <strong>แบบฟอร์มรายงานสงสัยว่ามีการล่วงละเมิดนักเรียน</strong> (ขอแบบฟอร์มได้ที่ผู้อำนวยการหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองนักเรียน) แล้วส่งไปยังผู้อำนวยการหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองนักเรียน ผู้รายงานโดยตรงต้องจัดทำรายงานแม้ว่าจะไม่ทราบหรือไม่แน่ใจในข้อมูลบางส่วน</li>
<li>ถ้าหากพบว่าข้อมูลที่รายงานนั้นไม่เป็นความจริง แต่บุคคลที่รายงานนั้นรายงานด้วยความหวังดี บุคคลนั้นจะไม่รับโทษ แต่หากพบว่าบุคคลที่รายงานนั้น รายงานด้วยความไม่ยั้งคิดในความเป็นจริง หรือรายงานด้วยเจตนาที่ไม่ดี บุคคลนั้นจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตน</li>
</ol>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>ขั้นตอนการตรวจสอบ (Investigation)</strong></h2>
<ol>
<li>ในระหว่างกระบวนการรายงานและการสอบสวน จะต้องมีการจำกัดข้อมูลให้ผู้จำเป็นต้องรู้เท่านั้น เพื่อเป็นการดูแลและปกป้องผู้ถูกกระทำที่ถูกกล่าวอ้าง ผู้กระทำผิดที่ถูกกล่าวหา และผู้รายงาน</li>
<li>หากผู้อำนวยการหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองนักเรียนมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องที่กล่าวหา รายงานนั้นจะถูกส่งต่อไปยังประธานของคณะกรรมการดำเนินงาน และประธานของคณะกรรมการดำเนินงานจะทำหน้าที่ในตำแหน่งแทนผู้อำนวยการ</li>
<li>ทันทีที่ได้รับรายงาน ผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองนักเรียนหรือผู้ที่รับหน้าที่ดูแลจะ<ol>
<li>ส่งต่อข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้กับคณะกรรมการดำเนินงานของโรงเรียน</li>
<li>แต่งตั้งผู้ที่จะทำการสอบสวน<ol>
<li>หากการกระทำที่ถูกกล่าวหานั้นเกิดขึ้นในโรงเรียน หรือระหว่างคนของคริกส์ (เช่น ระหว่างครู บุคลากร พนักงาน นักเรียน ผู้ปกครอง) และเป็นการกระทำในลักษณะเชิงอาญา โรงเรียนจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่รัฐรับทราบ และดำเนินการตามข้อค้นพบหรือข้อสรุปของหน่วยงานเหล่านั้น</li>
<li>หากการละเมิดที่ถูกกล่าวหานั้นเกิดขึ้นบริเวณนอกโรงเรียน หรือมีผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ที่ไม่ใช่คนของคริกส์ ทางโรงเรียนจะแจ้งเจ้าหน้าที่รัฐหรือองค์กรอื่นๆ ตามความเหมาะสมของกรณี องค์กรเหล่านี้อาจรวมไปถึง (แต่ไม่จำกัดเฉพาะ) ตำรวจไทย ผู้นำองค์กรมิชชั่น สถานฑูต เป็นต้น<ul>
<li>คริกส์จะยังคงปรึกษาหารือและให้ความช่วยเหลือกับกลุ่มคนข้างนอกที่เกี่ยวข้องกับการทำการสอบสวนพนักงาน บุคลากร หรือนักเรียนที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการล่วงละเมิดหรือการคุกคามนักเรียน</li>
</ul>
</li>
<li>หากการล่วงละเมิดที่ถูกกล่าวหานั้นไม่ถือว่าเป็นความผิดทางอาญา หรือมีข้อสงสัยเพียงพอว่าการกระทำนั้นไม่ผิดกฎหมาย คริกส์จะเป็นฝ่ายดำเนินการสอบสวน<ul>
<li>ในกรณีที่คริกส์เป็นผู้นำในการสอบสวน ผู้อำนวยการจะแต่งตั้งทีมงานสอบสวน ซึ่งอาจประกอบไปด้วย ที่ปรึกษา พยาบาล ครูใหญ่ พนักงานที่ได้รับค่าตอบแทน หรืออาสาสมัคร (ตามความเหมาะสม) ทีมงานจะเร่งดำเนินการสอบสวนแบบไม่เปิดเผย และสอบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วนในการพิจารณาว่า มีเหตุอันควรเชื่อว่าการละเมิดได้เกิดขึ้นหรือไม่ แล้วทีมงานจะส่งผลการสอบสวนเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังผู้อำนวยการ</li>
</ul>
</li>
</ol>
</li>
<li>ดำเนินการชั่วคราวตามความเหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึง (แต่ไม่จำกัดเฉพาะสิ่งต่อไปนี้):<ol>
<li>ดำเนินการตามขั้นตอนทันที เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ที่ให้ข้อมูลรายงาน ผู้ถูกกระทำที่ถูกกล่าวอ้าง และผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด</li>
<li>ในช่วงระยะเวลาสอบสวนบางส่วนหรือทั้งหมด ผู้ถูกกล่าวหาจะถูกระงับการทำหน้าที่/การเข้าเรียน หากผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดนั้นเป็นอาสาสมัครหรือพนักงานที่ได้รับค่าตอบแทน ผู้นั้นจะถูกระงับการได้รับค่าตอบแทนจนกว่าการสอบสวนและการติดตามเรื่องจะเสร็จสิ้น นักเรียนที่ถูกกล่าวหาอาจไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเรียน แต่ก็จะไม่ถูกลงโทษทางวิชาการในระหว่างกระบวนการสอบสวน</li>
<li>แจ้งผู้ปกครองของผู้ถูกกระทำที่ถูกกล่าวอ้างโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เกี่ยวกับข้อกล่าวหาและกระบวนการสอบสวน (จำเป็นต้องใช้ดุลยพินิจในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นสมาชิกครอบครัว)</li>
<li>จัดเตรียมและแนะนำบุคคลอ้างอิงที่จะช่วยให้คำแนะนำ และส่งต่อการดูแลให้ความช่วยเหลือ (ตามความจำเป็นและความเหมาะสม) เพื่อดูแลผู้ถูกกระทำที่ถูกกล่าวอ้าง ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดผู้ถูกกระทำที่ถูกกล่าวอ้าง และผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด</li>
</ol>
</li>
<li>ทบทวนผลการสอบสวนของทีมงานสอบสวน และหากจำเป็น จะปรึกษากับผู้อำนวยการคนไทย คณะกรรมการดำเนินงาน และคณะกรรมการบริหารของโรงเรียน และเจ้าหน้าที่รัฐ (ผ่านผู้อำนวยการคนไทย) ข้อสรุปจะถูกส่งต่อไปยังคณะกรรมการดำเนินงานและคณะกรรมการบริหารของโรงเรียนในเวลาที่เหมาะสม</li>
</ol>
</li>
</ol>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>การลงโทษ/การติดตามเรื่อง (Consequences/Follow-up)</strong></h2>
<ol>
<li>หากการสอบสวนของคริกส์ หรือหน่วยงานภายนอกบ่งชี้ว่าไม่มีเหตุอันควรให้เชื่อว่าได้มีการล่วงละเมิดเกิดขึ้น ผู้อำนวยการจะแจ้งให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการสอบสวนและคณะกรรมการดำเนินงานทราบ หากคริกส์เป็นผู้นำในการสอบสวน จะมีคำกล่าวความบริสุทธิ์ให้กับผู้ที่ถูกกล่าวหา</li>
<li>หากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้เกิดขึ้น แต่ไม่ถือว่าเป็นการล่วงละเมิดหรือการละเลย ผู้ถูกกล่าวหาจะต้องได้รับโทษทางวินัยที่เหมาะสมตามดุลยพินิจของฝ่ายบริหาร</li>
<li>หากการสอบสวนมีเหตุอันควรให้เชื่อได้ว่า มีการล่วงละเมิดเกิดขึ้น ผู้อำนวยการหรือผู้ที่ได้รับหน้าที่ดูแล จะแจ้งผ่านผู้อำนวยการคนไทย ไปยังคณะกรรมการดำเนินงานและคณะกรรมการบริหารของโรงเรียนตามความเหมาะสม และอาจแจ้งเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐ (เช่น ตำรวจ และองค์กรปกป้องสิทธิของเด็ก) ให้ทราบเรื่องนี้ พร้อมกับวิธีการลงโทษ</li>
<li>ผู้อำนวยการและคณะกรรมการดำเนินงานจะเป็นฝ่ายทำการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการยกเลิกสัญญาจ้างหรือการไล่ออก แต่ควรคาดว่า:<ol>
<li>หากพบว่าอาสาสมัคร/พนักงานที่ได้รับค่าตอบแทนมีส่วนร่วมในการล่วงละเมิด/การละเลยนักเรียน บุคคลนั้นจะถูกยกเลิกสัญญาในการทำงาน และอาจถูกส่งตัวต่อไปยังเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อดำเนินคดีทางอาญา</li>
<li>หากพบว่าบุคคลจากกลุ่มอื่นๆ นอกเหนือจากคณะกรรมการดำเนินงาน (รวมถึงครูสอนชั่วคราว ผู้ช่วยโค้ช และอาสาสมัครที่ช่วยงานเป็นประจำ) มีส่วนร่วมในการทารุณกรรม/การละเลยนักเรียน ผู้นั้นจะถูกห้ามจากการปฏิบัติหน้าที่ใดๆ ในคริกส์ต่อไป และอาจถูกส่งตัวต่อไปยังเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อดำเนินคดีทางอาญา</li>
<li>หากพบว่านักเรียนของคริกส์มีส่วนร่วมในการทารุณกรรม/การละเลย ผู้อำนวยการจะปรึกษาหารือกับครูใหญ่ ผู้สอบสวน หรือกลุ่มอื่นๆ ถึงวิธีการลงโทษที่เหมาะสมกับนักเรียนคนนั้น การลงโทษทางวินัยนั้นมีหลายรูปแบบตั้งแต่ การเขียนจดหมายขอโทษ สั่งให้เข้ารับการปรึกษา การไล่ออก หรือถูกส่งตัวต่อไปยังเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อดำเนินคดีทางอาญา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการกระทำของนักเรียน</li>
</ol>
</li>
</ol>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>สัญญาณและอาการของการถูกทารุณกรรม (Signs and Symptoms of Abuse)</strong></h2>
<p>เค้าโครงต่อไปนี้เป็นตัวบ่งชี้ว่ามีการถูกทารุณกรรมและการถูกละเลย ผู้ให้การศึกษาควรใช้เค้าโครงนี้เป็นแนวทางในการรายงาน ผู้รายงานไม่จำเป็นต้องทราบรายละเอียดของการทารุณกรรมหรือพยายามแน่ใจว่าตัวบ่งชี้ที่สังเกตนั้นถือว่าเป็นการถูกทารุณกรรมหรือเปล่าก่อนที่จะรายงาน กฎของการรายงานคือ “การมีสาเหตุที่สมเหตุสมผลให้เชื่อว่านักเรียนกำลังตกเป็นเหยื่อของการทารุณกรรมหรือการละเลย” การมีสาเหตุหรือข้อสงสัยที่สมเหตุสมผลจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีคนใดคนหนึ่งสงสัยโดยปราศจากอคติว่า มีการทารุณกรรมหรือการละเลยนักเรียนเกิดขึ้น เพราะแม้แต่คนที่ไม่มีอคติที่อยู่ในตำแหน่งเดียวกันก็จะสงสัยเช่นกันว่าอาจมีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากการเรียนรู้ที่เคยได้รับมาและจากประสบการณ์</p>
<p>ความรุนแรงของตัวบ่งชี้วัดหรือคำให้การของนักเรียนเกี่ยวกับบาดแผลที่เกิดขึ้นโดยเจตนาอาจบ่งบอกถึงความเป็นไปได้ว่ามีการทารุณกรรมเกิดขึ้น</p>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>ตัวชี้วัดว่าถูกล่วงละเมิดทางกายภาพ (Indicators of Physical Abuse)</strong></h2>
<ul>
<li>รอยฟกช้ำหรือรอยเฆี่ยนที่ไม่สามารถอธิบายได้บนส่วนต่างๆ ของร่างกาย</li>
<li>รอยฟกช้ำที่เกิดขึ้นในเวลาต่างกัน (สีต่างๆ )</li>
<li>รอยบาดแผลที่บ่งบอกถึงรูปร่างของสิ่งของที่ใช้ (สายไฟ เข็มขัด หัวเข็มขัด เป็นต้น)</li>
<li>รอยบาดแผลที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งหลังจากวันขาดเรียน ช่วงวันหยุด หรือปิดภาคเรียน</li>
<li>บาดแผลไฟไหม้ที่ไม่สามารถอธิบายได้ โดยเฉพาะที่ฝ่าเท้า ฝ่ามือ แผ่นหลัง หรือบั้นท้าย</li>
<li>บาดแผลไฟไหม้ที่มีรูปร่างว่าอาจเกิดจากเตาไฟฟ้า เตารีด หรือบุหรี่</li>
<li>รอยไหม้จากเชือกที่แขน ขา คอ หรือลำตัว</li>
<li>บาดแผลที่ไม่สอดคล้องกับข้อมูลที่นักเรียนได้ให้</li>
<li>บาดแผลน้ำร้อนลวกที่เห็นขอบเขตได้ชัดเจน</li>
<li>บาดแผลฉีกขาด ถลอก หรือกระดูกหัก</li>
</ul>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>ตัวชี้วัดว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศ (Indicators of Sexual Abuse)</strong></h2>
<ul>
<li>นักเรียนมีโรคติดต่อทางเพศ</li>
<li>มีหลักฐานของการบาดเจ็บทางร่างกาย หรือมีเลือดออกที่บริเวณปาก อวัยวะเพศ หรือทวารหนัก</li>
<li>รู้สึกลำบากเวลาเดินหรือนั่ง</li>
<li>ปฎิเสธที่จะเปลี่ยนเป็นชุดพละ</li>
<li>นักเรียนวิ่งหนีออกจากบ้าน และไม่ได้แจ้งสาเหตุอย่างเจาะจง</li>
<li>การตั้งครรภ์เมื่ออายุ ๑๑ หรือ ๑๒ ปี โดยไม่มีประวัติว่าเคยมีความสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามที่เป็นวัยเดียวกัน</li>
<li>มีความรู้เรื่องเพศสัมพันธ์ มีพฤติกรรม หรือใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมกับวัย</li>
</ul>
<p>*ตัวบ่งชี้พฤติกรรมที่สังเกตได้ไม่ถือว่ามีการล่วงละเมิดเกิดขึ้นเสมอไป แต่หากมีข้อมูลอื่นร่วมด้วยก็เป็นเหตุพอให้มีการรายงาน</p>
<h1><strong>นโยบายเกี่ยวกับพฤติกรรมทำร้ายตนเอง (Self-Harm Policy)</strong></h1>
<h2><strong>คำนำ (Introduction)</strong></h2>
<p>คริกส์มีนโยบายที่จะรักษาและส่งเสริมสุขภาพจิตในหมู่นักเรียน เนื่องจากพฤติกรรมทำร้ายตนเองเป็นอาการของความเครียดทางจิตใจ คริกส์จะช่วยเหลือนักเรียนที่มีพฤติกรรมทำร้ายตนเอง ผู้รายงานโดยตรงทุกคน (อาสาสมัคร บุคลากร และพนักงานที่ได้รับค่าตอบแทนทุกคน) จะต้องรายงานให้ผู้อำนวยการทราบหากคิดว่าใครบางคนมีพฤติกรรมทำร้ายตนเอง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในหรือนอกโรงเรียน</p>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>คำจัดกัดความ (Definitions)</strong></h2>
<p>พฤติกรรมทำร้ายตนเองคือ “พฤติกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ส่งผลโดยตรงกับร่างกาย และไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม และก่อให้เกิดความบาดเจ็บทางร่างกายในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง” (Lewis &amp; Bear, 2009) พฤติกรรมทำร้ายตนเองนั้นไม่ค่อยมีส่วนเกี่ยวข้องกับความคิดฆ่าตัวตาย เนื่องจากพฤติกรรมทำร้ายตนเองนั้นเป็นวิธีหนึ่งที่ใช้ในการบรรเทาความเครียดที่ช่วยให้เกิดความรู้สึกสงบ เหตุฉะนั้นพฤติกรรมทำร้ายตนเองนั้นถือเป็นอาการภายนอกที่บ่งบอกถึงความเครียดของสุขภาพจิตภายใน การกระทำของการทำร้ายตนเองซ้ำๆ อาจกลายเป็นการเสพติดได้ พฤติกรรมทำร้ายตนเองสามารถแบ่งออกได้เป็นสามกลุ่ม</p>
<ul>
<li>ระดับใหญ่– ร้ายแรงและไม่บ่อย ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากความมึนเมา</li>
<li>แบบแผนพฤติกรรม พฤติกรรมแบบซ้ำๆ พบบ่อยในผู้ป่วยที่มีความบกพร่องทางจิต</li>
<li>ระดับปานกลางหรือผิวเผิน เป็นที่แพร่หลายมากสุดในกลุ่มวัยรุ่น</li>
</ul>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>การป้องกันการพฤติกรรมทำร้ายตนเอง (Prevention of Self-harm)</strong></h2>
<ol>
<li>คริกส์จะส่งเสริมสัมพันธภาพทางสังคมในเชิงบวกระหว่างนักเรียน โดยผ่านการสอน กิจกรรม และการส่งเสริมให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในกิจกรรมของโรงเรียน</li>
<li>คริกส์จะเสริมสร้างบรรยากาศที่ยอมรับในความเป็นไปได้ (นั่นคือ เชื่อในความเป็นไปได้ที่นักเรียนอาจมีพฤติกรรมทำร้ายตนเอง) และเสรีภาพในการรายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมทำร้ายตนเอง</li>
<li>พนักงานทุกคนที่อยู่ภายใต้สัญญา (ผู้ที่ได้รับค่าตอบแทนและอาสาสมัคร) จะต้อง<ol>
<li>เข้าร่วมการฝึกอบรมที่เหมาะสมเป็นประจำทุกปี การอบรมนี้จะมีการทบทวนเกี่ยวกับนโยบายนี้ ตัวชี้วัดว่ามีพฤติกรรมทำร้ายตนเอง และวิธีการตอบสนองที่เหมาะสม</li>
<li>ปฏิบัติและดำเนินการตามนโยบาย เพื่อส่งเสริมบรรยากาศของการเรียนรู้ที่ปลอดภัยและดี</li>
<li>ทำความเข้าใจเกี่ยวกับความรับผิดชอบของตนในฐานะ "ผู้รายงานโดยตรง" ในกรณีที่่สงสัยว่านักเรียนอาจมีพฤติกรรมทำร้ายตนเอง</li>
</ol>
</li>
<li>หากผู้รายงานโดยตรงไม่รายงานเรื่องที่ต้องสงสัยที่มีความสมเหตุสมผลเกี่ยวกับพฤติกรรมทำร้ายตนเองหรือการละเลย ผู้ที่รายงานจะได้รับการอบรมโดยคริกส์ และอาจรวมไปถึงการยกเลิกสัญญาในการทำงาน</li>
<li>ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับนโยบายนี้และที่เกี่ยวกับแนวโน้มในปัจจุบันของพฤติกรรมทำร้ายตนเองจะถูกจำแนกให้กับผู้ปกครองและนักเรียน</li>
</ol>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>การค้นพบและการรายงาน (Discovery and Reporting)</strong></h2>
<ol>
<li><strong>คำสั่งการ</strong> (อ่านได้ที่ใต้หัวข้อ คำสั่งการ ในนโยบายนี้)<ol>
<li>ที่คริกส์ อาสาสมัครที่ได้ลงทะเบียน ครู บุคลากร และพนักงานทุกคนได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รายงานโดยตรง และต้องรายงานให้ผู้อำนวยการหรือครูใหญ่ทราบหากสงสัยว่าใครบางคนมีพฤติกรรมทำร้ายตนเอง ผู้รายงานโดยตรงจะต้อง:<ol>
<li>จัดทำรายงานส่งไปให้ผู้อำนวยการหรือครูใหญ่ทุกครั้งเมื่อรู้หรือสังเกตว่า มีนักเรียนที่ตนรู้จักหรือ มี “การตั้งข้อสงสัยที่สมเหตุสมผล” ว่าอาจมีนักเรียนที่มีพฤติกรรมทำร้ายตนเอง<ul>
<li>* “การตั้งข้อสงสัยที่สมเหตุสมผล” คือ การที่คนใดคนหนึ่งจะสงสัยโดยปราศจากอคติว่า นักเรียนมีพฤติกรรมทำร้ายตนเอง เพราะแม้แต่คนที่ไม่มีอคติที่อยู่ในตำแหน่งเดียวกันก็จะสงสัยเช่นกันว่าอาจมีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากการเรียนรู้ที่เคยได้รับมาและประสบการณ์ของตัวเอง</li>
</ul>
</li>
<li>จัดทำรายงานในรูปแบบรายลักษณ์อักษร พร้อมกับลงนาม แล้วส่งรายงานให้กับผู้อำนวยการภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากได้รับข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมทำร้ายตนเองที่ต้องสงสัย แบบฟอร์มรายงานสามารถขอได้จากผู้อำนวยการและครูใหญ่</li>
</ol>
</li>
<li>การรายงานภายใต้หัวข้อนี้เป็นหน้าที่ของรายบุคคล เหตุฉะนั้นหัวหน้า ผู้บริหาร และสมาชิกของคณะกรรมการดำเนินงาน ไม่มีสิทธิ์ขัดขวางหรือยับยั้งหน้าที่การรายงาน และบุคคลใดก็ตามที่รายงานเนื่องจากมีความสงสัยที่สมเหตุสมผลจะไม่ถูกลงโทษโดยคริกส์</li>
<li>การรายงานข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมทำร้ายตนเองให้กับพนักงาน บุคลากร เพื่อนร่วมงาน หรือบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้อำนวยการหรือครูใหญ่ จะไม่ถือว่าเป็นการทดแทนการรายงานตามคำสั่งการ</li>
</ol>
</li>
<li><strong>การรายงานของนักเรียนที่เกี่ยวกับพฤติกรรมทำร้ายตนเอง</strong>
<ol>
<li>นักเรียนคนใดที่มีพฤติกรรมทำร้ายตนเองหรือรู้ว่ามีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น จะต้องรายงานให้กับอาสาสมัครหรือพนักงานของคริกส์ทราบ และคนที่ได้รับรายงานนั้นจะขอให้อาสาสมัครหรือพนักงานของคริกส์อีกคนหนึ่งช่วยเป็นพยานรับฟังข้อมูลที่ได้รับจากนักเรียน เมื่อได้รับข้อมูลแล้ว ผู้รายงานโดยตรงจะทำรายงานเกี่ยวกับเรื่องนั้นแล้วส่งไปให้ผู้อำนวยการ</li>
</ol>
</li>
<li><strong>เนื้อหาของรายงาน</strong>
<ol>
<li>รายงานที่เกี่ยวกับการสงสัยว่าใครบางคนอาจมีพฤติกรรมทำร้ายตนเองควรถูกกรอกในแบบฟอร์มที่มีไว้ให้แล้ว ผู้รายงานโดยตรงจะต้องจัดทำรายงานถึงแม้ว่าจะไม่ทราบหรือไม่แน่ใจในข้อมูลบางส่วนของผู้ที่กำลังถูกสงสัยว่าอาจมีพฤติกรรมทำร้ายตเนอง</li>
</ol>
</li>
<li><strong>การป้องกันการรับโทษเมื่อรายงานมีความผิดพลาด</strong>
<ol>
<li>ถ้าหากพบว่าข้อมูลที่รายงานนั้นไม่เป็นความจริง แต่บุคคลที่รายงานนั้นรายงานด้วยความหวังดี บุคคลนั้นจะไม่รับโทษ แต่หากพบว่าบุคคลที่รายงานนั้น รายงานแม้รู้ว่าเป็นความเท็จ หรือ “รายงานด้วยความไม่ยั้งคิดในความเป็นจริง” และ/หรือรายงานด้วยเจตนาที่ไม่ดี บุคคลนั้นจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตน</li>
</ol>
</li>
</ol>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>ขั้นตอนการตรวจสอบ (Investigation)</strong></h2>
<ol>
<li>ในระหว่างกระบวนการรายงานและการสอบสวน จะต้องมีการจำกัดข้อมูลให้ผู้จำเป็นต้องรู้เท่านั้น เพื่อเป็นการดูแลและปกป้องผู้ที่ถูกกล่าวอ้างว่ามีพฤติกรรมทำร้ายตนเองและผู้รายงาน</li>
<li>ครูใหญ่จะส่งรายงานต่อไปยังผู้อำนวยการ</li>
<li>ทันทีที่ได้รับรายงาน ผู้อำนวยการหรือผู้ที่รับหน้าที่ดูแล (เช่น พยาบาลของโรงเรียน) จะ:<ol>
<li>ส่งต่อข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้กับคณะกรรมการดำเนินงานของโรงเรียน</li>
<li>แต่งตั้งผู้ที่จะทำการสอบสวน</li>
<li>อาจมีการดำเนินการชั่วคราวตามความเหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึง (แต่ไม่จำกัดเฉพาะสิ่งต่อไปนี้):<ol>
<li>ดำเนินการตามขั้นตอนทันที เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ที่ให้ข้อมูลรายงานและผู้ที่ถูกกล่าวอ้างว่ามีพฤติกรรมทำร้ายตนเอง</li>
<li>แจ้งผู้ปกครองของผู้ที่ถูกกล่าวอ้างว่ามีพฤติกรรมทำร้ายตนเองโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เกี่ยวกับการกล่าวอ้างนี้และกระบวนการสอบสวน</li>
<li>จัดเตรียมและแนะนำบุคคลอ้างอิงที่จะช่วยให้คำแนะนำ และส่งต่อการดูแลให้ความช่วยเหลือให้กับผู้ที่ถูกกล่าวอ้างว่ามีพฤติกรรมทำร้ายตนเอง ตามความจำเป็นและความเหมาะสม</li>
</ol>
</li>
<li>ทบทวนผลการสอบสวนของทีมงานสอบสวน และหากจำเป็น ให้ปรึกษากับผู้อำนวยการคนไทย คณะกรรมการดำเนินงาน คณะกรรมการบริหารโรงเรียน และเจ้าหน้าที่รัฐ (ผ่านผู้อำนวยการคนไทย) เพื่อสรุปผล ข้อสรุปจะถูกส่งต่อไปยังคณะกรรมการดำเนินงานและคณะกรรมบริหารโรงเรียนในเวลาที่เหมาะสม</li>
</ol>
</li>
</ol>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>ผลที่ตามมา/การติดตามเรื่อง (Consequences/Follow-up)</strong></h2>
<ol>
<li>หากการสอบสวนของคริกส์ หรือหน่วยงานภายนอกบ่งชี้ว่าไม่มีเหตุอันควรให้เชื่อว่านักเรียนมีพฤติกรรมทำร้ายตนเอง ผู้อำนวยการจะแจ้งให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการสอบสวนและคณะกรรมการดำเนินงานทราบ</li>
<li>หากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้เกิดขึ้น แต่ไม่ถือว่าเป็นพฤติกรรมทำร้ายตนเอง นักเรียนคนนั้นจะต้องได้รับโทษทางวินัยที่เหมาะสมตามดุลยพินิจของฝ่ายบริหาร</li>
<li>หากการสอบสวนระบุว่ามีเหตุอันควรให้เชื่อได้ว่ามีพฤติกรรมทำร้ายตนเองเกิดขึ้น ผู้อำนวยการหรือผู้ที่รับหน้าที่ดูแลจะแจ้งให้คณะกรรมการดำเนินงานและคณะกรรมการบริหารทราบเรื่องนี้ และจะ จัดหาแผนช่วยพัฒนาชีวิตให้กับนักเรียน แผนดังกล่าวจะรวมถึง<ol>
<li>แผนในการสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกและรับการปรึกษาแนะนำ</li>
<li>การอ้างอิงไปยังศูนย์การรับปรึกษาปัญหา</li>
<li>พยาบาลประจำโรงเรียนให้ความรู้เรื่องการดูแลบาดแผล และผลกระทบต่อสุขภาพจากการทำร้ายตนเอง</li>
</ol>
</li>
</ol>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>สัญญาณและอาการว่ามีพฤติกรรมทำร้ายตนเอง (Signs and Symptoms of Self-harm)</strong></h2>
<p><strong>The following outlines indicators of self-injurious behavior. and teachers should use it as a guideline for reporting. The first signs may include emotional changes avoiding people and having poor academic results. Other signs that may be more noticeable include fibrous scars. on the arms or legs caused by cutting oneself with a sharp object, bruises, burns, trying to cover body parts even though the weather is hot Picking at scabs, pulling hair, bashing one's head against a wall. Punching a wall or punching yourself In order to report that The person making the report does not need to know the details of the inquiry. Or do you want to be sure if the signs you notice are considered signs of self-harm? The reporting rules are “Reasonable cause to believe that a student is engaging in self-injurious behavior. ” Having reasonable cause or suspicion arises when one suspects without bias that a student may be injuring himself. Because even unbiased people in the same position would suspect that such a thing might happen. Derived from the learning that has been received and from experience.</strong></p>
<p>ความรุนแรงของตัวบ่งชี้วัดหรือคำให้การของนักเรียนเกี่ยวกับบาดแผลที่มีลักษณะว่าเกิดขึ้นโดยเจตนา ไม่ใช่โดยอุบัติเหตุ อาจบ่งบอกถึงความเป็นไปได้ว่านักเรียนมีพฤติกรรมทำร้ายตนเอง<br><br><br><strong>การทบทวนนโยบาย (Policy Review)&nbsp;</strong></p>
<p>นโยบายเกี่ยวกับ การปกป้องคุ้มครองนักเรียน ที่ได้กล่าวมาเบื้องต้นนี้ จะได้รับการทบทวนและปรับปรุงตามความจำเป็นทุกสองปี อนุกรรมการจะดูแลกระบวนการนี้โดยการนำของเจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองนักเรียน</p>
<p>&nbsp;</p>
<h2><strong>คู่มือปฏิบัติและข้อตกลงร่วมกัน การปกป้องคุ้มครองนักเรียน (Agreement to the Child Protection Handbook)</strong></h2>
<p>ผู้ปกครอง พนักงาน และบุคลากรทุกคนต้องยอมตกลงที่จะปฏิบัติตามคู่มือ การปกป้องคุ้มครองนักเรียน โดยการกรอกข้อมูลและเช็ค ข้อตกลงของผู้ปกครองโรงเรียนคริกส์ (<a href="https://forms.gle/T2NiHm9UThC6gUxp9">CRICS Parent School Agreement</a>) หรือ ข้อตกลงของพนักงาน บุคลากร โรงเรียนคริกส์ (<a href="https://forms.gle/txoUnz2XhUrWQek3A">CRICS Staff School Agreement</a>)</p>
<h1><strong>แบบฟอร์มรายงานสงสัยว่ามีการล่วงละเมิดนักเรียน</strong></h1>
<p>แบบฟอร์มรายงานจะถูกกรอกโดยผู้รายงานโดยตรง <a href="https://portal.crics.asia/child-protection-reporting-form/">https://portal.crics.asia/child-protection-reporting-form/</a></p>